แบนเนอร์หัวเรื่อง

เครื่องกำเนิดไอน้ำสำหรับการกลั่นเบียร์

การผลิตเบียร์ใช้กระบวนการหมักแบบธรรมชาติ และอุปกรณ์ที่ใช้ส่วนใหญ่ได้แก่ ถังเก็บเบียร์ ถังหมักยีสต์ ถังหมักเบียร์ข้าวสาลี และถังหมักแซคคาริฟิเคชัน
1. คุณลักษณะของการกลั่นขั้นต้นในกระบวนการผลิตเบียร์ คือ การเพาะเลี้ยงสาโทและยีสต์ แล้วจึงกรองเพื่อให้ได้สาโท
ขั้นตอนที่สองของการหมักคือการผสมน้ำเบียร์กับฮ็อปเพื่อหมักเป็นไวน์ ขั้นตอนที่สามคือการกลั่นครั้งที่สองเพื่อย่อยสลายผลิตภัณฑ์ไฮโดรไลซิสด้วยเอนไซม์ในน้ำเบียร์ให้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และสารอื่นๆ และจะได้ไวน์หลังจากการกรอง
ขั้นตอนแรกในการกลั่นเป็นกระบวนการต่อเนื่อง
การหมักรองแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่สามคือจากล่างขึ้นบน นั่นก็คือการควบแน่นจะเริ่มขึ้นเมื่อการกลั่นไปถึงยอดหอคอย (เรียกกันทั่วไปว่าหม้อหัว) นั่นก็คือการกลั่นครั้งที่สองซึ่งจะเรียกว่าเบียร์สด
ในกระบวนการผลิตเบียร์ เครื่องกำเนิดไอน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทโดยทั่วไป ได้แก่ เครื่องกำเนิดไอน้ำธรรมดาและเครื่องกำเนิดไอน้ำพิเศษ โดยสามารถออกแบบและผลิตได้ตามความต้องการ
2. การหมักรองนั้นส่วนใหญ่เพื่อผลิตไวน์มอลต์ จากนั้นจึงได้เบียร์สดโดยผ่านการกลั่นรอง
การผลิตเบียร์จำเป็นต้องผ่านกระบวนการหมักสองขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการทดสอบอุปกรณ์ด้วย อุปกรณ์จะต้องทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้ดี ประหยัดและใช้งานได้ดี และตรงตามข้อกำหนดของกระบวนการผลิตเบียร์ทั้งหมด อุปกรณ์จะต้องใช้งานง่ายและสะดวกในการใช้งาน
ตัวอย่างเช่น เครื่องกำเนิดไอน้ำที่ Tsingtao Brewery ใช้มีโครงสร้างแบบท่อคู่ผสมกัน ทำให้ดาวความร้อนรวมอยู่ในท่อเดียวเพื่อปรับปรุงผลการถ่ายเทความร้อน ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อไอน้ำก็ลดลงได้
3. ขั้นตอนการระเหยที่สามมีลักษณะเด่นคือ การต้มเบียร์ไวน์มอลต์ด้วยยีสต์เบียร์ก่อน จากนั้นจึงได้เบียร์สดในเมล็ดพืชของโรงกลั่น และขั้นตอนสุดท้ายคือการกลั่นครั้งที่สองเพื่อให้ได้ไวน์
กระบวนการผลิตเบียร์สด (เบียร์ปรุงสุก) หลักๆ คือ เทเบียร์ปรุงสุกลงในถังหมักชั้นที่ 2 เติมฮ็อปส์เพื่อดูดซับกลิ่นหอมของเบียร์ให้เต็มที่
เครื่องกำเนิดไอน้ำเบียร์ใช้ในกระบวนการผลิตดังกล่าว


เวลาโพสต์ : 26 พฤษภาคม 2566